อีกแบบเรียกว่า Hypertrophic เป็นแผลเป็นที่นูนอย่างจำกัด
อยู่ในขอบเขตของแผลแรกเริ่ม ที่แผลมีสีแดงหรือชมพู ทำให้รู้สึกคันและเจ็บเล็กน้อย มักเกิดในตำแหน่งที่ผิวหนังมีความตึงมาก
เมื่อผิวหนังของคนเราเกิดแผลจะมีกระบวนการหายของแผลเกิดขึ้น ในกระบวนการนี้เอง เชื่อว่าถ้าน้ำในผิวระเหยออกมามาก ทำให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นแผลขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนเกิดขึ้นมากเกินกว่าปกติและเกิดการเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ในคนปกติเมื่อมีแผลเกิดขึ้น ตามธรรมชาติของผิวหนังบริเวณนั้นจะเกิดการอักเสบราว 3-7 วัน โดยตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ผิวหนังก็จะเริ่มขั้นตอนการเยียวยาตัวเอง หลังจากนั้นความยืดหยุ่นของผิวจะค่อยๆ คืนกลับมา สภาพผิวจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ในกรณีที่เกิดแผลเป็น กระบวนการหายของแผลยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี แผลยังคงมีการอักเสบอยู่ จึงทำให้หลายท่านที่เป็นแผลเป็นมีอาการ คัน เจ็บ จื๊ดๆบริเวณแผลได้ แผลเป็นอาจค่อยดีขึ้นตามกาลเวลาหรือไม่แล้วแต่อันนี้แล้วแต่บุคคล
รู้กันแล้วว่า แผลเป็นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่กว่าจะจางหายใช้เวลานานเหลือเกิน เช่น มีแผลเป็นที่แขนหรือหัวไหล่ ทำอดใส่เสื้อแขนกุด หรือคุณแม่ที่ผ่านการผ่าตัดคลอดบุตร
ทุกปัญหาความสวย ย่อมมีทางออก อย่างเรื่องแผลเป็นก็เช่นกัน ทางการแพทย์ชี้ว่า ซิลิโคน ชีท หรือแผ่นซิลิโคนที่ใช้แปะทับบริเวณแผลเป็นสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพแผลให้จางและยุบตัวลงเป็นปกติ เพราะในซิลิโคน ชีท มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง โพลีเมอร์ ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำจากผิวหนังสู่บรรยากาศ ทำให้เพิ่มความชุ่มชื้นแก่เซลล์ผิวหนัง
แต่ปัญหาของซิลิโคน ชีท นั้นมีขนาดไม่เล็ก ไม่บาง จึงไม่เหมาะที่จะแปะแผลเป็นบริเวณในหน้า อีกทั้งตัวกาวสำหรับยึดติดแผ่นซิลิโคนกับผิวหนัง อาจเคลื่อนหลุดหากติดในบริเวณผิวหนังที่มีการเคลื่อนตัวบ่อย ๆ เช่น ข้อศอก บางคนถึงกับต้องใช้วัสดุอื่นๆ มาช่วยปิดทับให้แน่นสนิท กลับยิ่งขัดขวางการถ่ายเทอากาศบริเวณแผล ซึ่งทั้งหมดจัดเป็นอุปสรรคขวางการใช้งานอย่างต่อเนื่อง แผลเป็นก็อาจหายได้ช้าลง
อ่านดูก็อย่างเพิ่งถอดใจ ถ้าแผลที่เป็นอยู่ไม่สะดวกที่จะใช้ซิลิโคน ชีท ก็ยังสามารถพึ่งพานวัตกรรมทางการแพทย์ล่าสุด อย่าง ‘ ซิลิโคน เจล ’ ซิลิโคน รักษาแผลเป็นในรูปแบบของเจลบีบจากหลอด เนื้อเจลที่ใส มีความหนืดพอควร ใช้เพียงปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว ทาลงบนแผลเป็นชนิด Keloid และ Hypertrophic ได้ทุกส่วน ใช้ทาหลังจากแผลแห้งสนิท ไม่เว้นแม้ใบหน้า เพราะเนื้อเจลบางเบา ไม่มีสี โดยควรทาหลังจากทำความสะอาดผิวหนังและเช็ดให้แห้งแล้วจึงทาลงไป ผิวจะถูกเคลือบไว้คล้ายแผ่นฟิล์มเคลือบทับ หากทาที่ใบหน้าควรทิ้งไว้ให้แห้งสนิท หรือราว 5 นาที จึงทาครีมบำรุงผิวและเมคอัพต่อไป
ซิลิโคน เจล ซึ่งได้มาตรฐานและผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง ซึ่งมีผลวิจัยยืนยันว่า การใช้ซิลิโคน เจล ต่อเนื่องสม่ำเสมอ วันละ 2 ครั้ง ไม่ต่ำกว่า 12 สัปดาห์ ช่วยให้แผลดูดีขึ้น ความนูนลดต่ำลง แผลนุ่มขึ้น รอยแดงจางลงเช่นเดียวกับสีของแผล ลดอาการคันและปวดลงได้ด้วย
แม้จะเป็นซิลิโคน ชนิดเจล แต่ก็ไม่ซึมเข้ากระแสเลือดไปรบกวนการทำงานระบบต่างๆ ของร่างกาย เพราะออกฤทธิ์ที่ชั้นผิวหนังเท่านั้น ทั้งยังมีความอ่อนโยน เนื่องจากใช้ได้กับเด็กเล็กๆ อายุ 18 เดือนขึ้นไป สำหรับ ซิลิโคน เจล หลอดบรรจุ 18 กรัม หากใช้ตามปริมาณที่แนะนำจะใช้ได้นาน 2-3 เดือน สนนราคาหลอดละพันกว่าบาท ซึ่งตอนนี้มีจำหน่ายที่โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน
ทีนี้เรามาดูความเห็นของ ‘พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์’ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญกันบ้าง ว่า ซิลิโคน เจล เป็นอย่างไรบ้าง ควรใช้หรือไม่
จากการศึกษาทางคลินิกและการวิจัยต่าง พบว่ากลไกการออกฤทธิ์ของ ซิลิโคนเจลที่ช่วยในการรักษาแผลเป็น ต่างๆดังต่อไปนี้
•เพิ่ม Hydration ให้ผิว โดยการปิดเคลือบบนแผล ทำให้เกิดความชุ่มชื้นแก่ stratum corneum ( ผิวหนังกำพร้าชั้นสุด ) ทำให้ collagen เรียงตัวกันได้เป็นระเบียบมากขึ้น
•ช่วยลดการหลั่ง cytokine ( สารเคมีชนิดหนึ่งในร่างกาย ) ที่จะกระตุ้นการทำงานของ fiboblast ( เซลล์สร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน )
•ลดการทำงานของ mast cell ( เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ) ลดการบวมและการขยายตัวของหลอดเลือด
•เพิ่มการสร้าง bFGF ( basic fibroblast growth factor ) ซึ่งทำให้ลดการสร้าง type 1 collagen
•ลดการสร้าง TGFb1 ( transforming growth factor ) ซึ่งทำให้ลดการเกิดแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การใช้ ซิลิโคน เจล ยังช่วยทำให้คนไข้มีวินัยในการใช้ยามากขึ้น เนื่องจาก ซิลิโคน เจล เป็นเจลใส ไร้สี ไร้กลิ่นใช้สะดวก ใช้ง่าย สามารถทาเคลือบบริเวณแผลเป็นได้เหมือนครีมทั่วๆไป สามารถใช้ได้ในเด็กเล็กและหญิงมีครรภ์ได้อย่างปลอดภัย
ทราบเรื่องราวของซิลิโคนเจลแล้ว คนที่มีปัญหาแผลเป็นอยู่คงสบายใจขึ้น ทว่าอยากลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิลิโคนเจลก่อนลองใช้ เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.doctorskinhouse.com จะมีคำอธิบายจากแพทย์ผิวหนังเพิ่มเติมให้อ่านอีก.
‘แผลเป็น’ หายได้ด้วย ‘ซิลิโคน เจล’ รอยแผลเป็น’ แผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวก แผลจากการเจาะ การสัก แผลฉีดวัคซีน-ปลูกฝี
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com