คลังบทความของบล็อก

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กินเติมสารมหัศจรรย์ต้านแก่

อนุมูลอิสระ (Free radical) ตัวการร้ายทำลายผิว เกิดจากปฎิกริยาออกซิเดชั่นของออกซิเจนในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย กลายเป็นสนิมไปเกาะเซลล์ต่างๆ และกัดกร่อนเซลล์ให้เสื่อมสภาพเร็ว


เปรียบได้กับคราบควันพิษจากการเผาเชื้อเพลิงของโรงงาน หากเกิดเพียงเล็กน้อยร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการอ่อนเพลีย

เหนื่อยง่าย ผิวหมองคล้ำ แต่ถ้าเมื่อใดที่ร่างกายต้องเผชิญกับปัจจัยอื่นรุมเร้า ก็จะมีปริมาณอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นเฉียบพลัน จนเกินกว่าจะรับมือไหว และหากยิ่งทิ้งไว้เนิ่นนานอวัยวะต่างๆ จะเกิดความเสื่อมหรือแสดงออกทางผิวหนังที่เหี่ยวย่น ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขยากเสียแล้ว

ไม่อยากแก่ ต้องทำอย่างไร
เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องแบกรับปริมาณสารอนุมูลอิสระเกินขนาด
จนเป็นสาเหตุแห่งความแก่ชรา
คุณควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระดังนี้

* กิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เช่น ออกกำลังกายหักโหมจนเกิดอาการเหนื่อยหอบ อย่างการวิ่งมาราธอน ยกน้ำหนัก

* กิน อาหารที่ทำให้เกิดการเผาผลาญพลังงานมาก เช่น ของทอด อาหารกลุ่มไขมันชนิดอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ที่ให้แคลอรีสูง หรือสิ่งที่มีอนุมูลอิสระสูง เช่น ของปิ้งย่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่

* หลีกเลี่ยงมลภาวะและสารเคมี นอกจากมลพิษทางอากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่เราหายใจเข้าไปแล้ว สารเคมีที่ปลอมปนอยู่ในอาหาร เช่น ยาฆ่าแมลง ผงชูรส สีสังเคราะห์ ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ส่วนแสงแดดที่เราต้องเจอทุกวันก็ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระบริเวณผิวหนัง ซึ่งเป็นด่านแรกที่รับแสงนั่นเอง

* เครียด สมองถือเป็นอวัยวะที่ผลิตอนุมูลอิสระสูงเนื่องจากทำงานหนักและมีการเผาผลาญ พลังงานมาก เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งสารเคมีบริเวณสมองส่วนที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระเพิ่มมากยิ่งขึ้น มีงานวิจัยของ ดร.ริชาร์ด เดวิดสัน จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเก็บข้อมูลจากพระลามะ ทิเบต พบว่า การนั่งสมาธิแบบพุทธมหายาน ช่วยลดความเครียดและเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกายได้ เพราะการนั่งสมาธิจะช่วยให้หายใจช้าลง ทำให้เกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่นน้อยลง และร่างกายหลั่งโกร๊ธฮอร์โมนเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

* พัก ผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับช่วยให้อวัยวะส่วนใหญ่ได้หยุดพักและช่วยให้อวัยวะที่ต้องทำงาน ตลอดเวลา เช่น หัวใจ ปอด และสมอง ใช้พลังงานน้อยลงซึ่งเป็นการลดการเกิดอนุมูลอิสระได้ทางหนึ่ง ดังนั้นหากพักผ่อนน้อย ร่างกายจึงต้องผลิตพลังงานและทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากตามไปด้วย

    กินเติมสารมหัศจรรย์ต้านแก่
แม้คุณจะพยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมก่ออนุมูลอิสระสักเท่าไร แต่เมื่ออายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายก็จะลดลง จึงจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมเพื่อลดการเกิดและสะสมสารต้านอนุมูลอิสระไว้เสีย ตั้งแต่วันนี้

* แคโรทีนอยด์ เป็นเม็ดสีชนิดละลายในไขมัน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้เมื่อผ่านการปรุงสุก พบในผักสีส้ม เหลือง แดง เขียวเข้ม เช่น เอพริคอต ฟักทอง แคนตาลูป แครอท พีช บรอกโคลี

* ฟลา โวนอยด์ เป็นเม็ดสีชนิดละลายน้ำ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินซีและอีถึงห้าสิบเท่า พบมากในดาร์กช็อกโกแลต องุ่นแดง และชาเขียว

* แอนโธไซยานิน ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ พบในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

* โคเอนไซม์คิวเทน ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวี พบได้ในแซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า

* วิตามิน ซี เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำที่เสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นให้ทำ งานอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่นในไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ได้แก่ ไขมันชนิดอิ่มตัว และไขมันทรานซ์ พบมากในฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม เชอร์รี่ เสาวรส ทับทิม ซึ่งควรรับประทานแบบผลสดเพราะวิตามินซีจะถูกทำลายเมื่อถูกความร้อนและแสงแดด


* วิตามิน อี เป็นวิตามินชนิดละลายในไขมัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระในอวัยวะที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ เช่น สมอง ตับ พบมากในน้ำมันพืข โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ถั่วลิสง วอลนัต อัลมอนด์

* แร่ ซิลีเนียมและสังกะสี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่เสริมการทำงานของวิตามินอี ช่วยฟื้นฟูความเสื่อมของเซลล์ พบมากในเนื้อแดง อาหารทะเล และถั่วเปลือกแข็ง

นอกจากจะ เลือกรับประทานอาหารที่มากด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อชะลอความเสื่อมโดยรวม แล้ว เรายังสามารถเติมสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อลดปัญหาผิวได้ตรงจุด โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีวิตามินอี วิตามินซี โคเอนไซม์คิวเทน ซึ่งแม้จะช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องทำความเข้าในในหลักการและวิธีการใช้ที่ถูกต้องด้วย

* วิตามินหรือสารบำรุงดังกล่าวอาจสูญสลายเมื่อถูกความร้อน จึงควรเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ไว้ในตู้เย็นเพื่อคงคุณค่าของสารบำรุงไว้

* ไม่ ควรทาผลิตภัณฑ์พร้อมกันหลายชนิด เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์จะซึมลงสู่ผิวได้ในปริมาณจำกัดแล้ว ส่วนประกอบของครีมที่แตกต่างกันจะส่งผลให้ประสิทธิภาพของวิตามินหรือสารต้าน อนุมูลอิสระในครีมเสื่อมสภาพหรือสูญสลายไป

* อาจเลือกใช้ผลไม้ที่มี สารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น สตรอว์เบอร์รี่บดผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติพอกหน้าเพื่อเพิ่มวิตามินซีให้แก่ ผิวโดยตรง

รีบเติมสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกายเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้ความสวยยั่งยืนจากภายใน ส่งผลให้ผิวพรรณที่แลดูอ่อนวัยอยู่คู่กับเราไปนานๆ นะคะ
.....................
Health & Cuisine ปีที่ : 10 ฉบับที่ : 119 เดือน : ธันวาคม 2553